ระบบการทำงานของบล็อกลม
บล็อกลม หรือ Impact Wrench เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้เพื่อขันหรือคลายน็อตที่แน่นหรือฝืด เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ของทุกร้านยางและอู่ซ่อมรถ ในท้องตลาดมีบล็อกลมให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกลม 1 นิ้ว บล็อกลม 6 หุน บล็อกลม 4 หุน ขนาดแกนสั้น แกนยาว แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคนอาจยังไม่รู้คือ บล็อกลมแต่ละรุ่นนั้นมีกลไกการทำงาน (Mechanism) ที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อทั้งความแรงของบล็อก แรงสะบัด แรงบิด การกินลม อัตราการกระแทก (Impact per minute, ipm) และความทนทานของบล็อก วันนี้ Remy ขอพาทุกท่านมารู้จักกับ 7 กลไกหลักของบล็อกลมที่นิยมใช้ในท้องตลาด เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือได้เหมาะกับงานและคุ้มค่าที่สุดระบบค้อนเดี่ยว (Rocking Dog Mechanism)กลไกยอดนิยมในบล็อกลม 1 นิ้ว มีโครงสร้างที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน น้ำหนักพอประมาณ ให้แรงบิดสูงในตั้งแต่เริ่มต้น จุดเด่น: ทนทาน , ซ่อมและบำรุงรักษาง่าย , รื้อแล้วประกอบกลับเข้าไปง่าย ข้อสังเกต: มีแรงสะบัดค่อนข้างมากและเสียงค่อนข้างดัง ตัวอย่างรุ่นแนะนำ: บล็อกลม RM-50 (Brand: KUKEN) ระบบไร้สลักลูกตี (Pinless Clutch Mechanism)กลไกที่พัฒนามาจาก Rocking Dog โดยตัดสลักลูกตี (Hammer Pin) ออก เพื่อให้ระบบทำงานลื่นไหลขึ้น เสื้อลูกตี (Impact Cage) เป็นแบบปิด แตกต่างตากกลไกค้อนเดี่ยว ทำให้แรงกระแทกนุ่มนวลแต่ทรงพลัง จุดเด่น: แรงกว่าระบบค้อนเดี่ยว, สะบัดน้อยกว่า, เสียงเงียบกว่าและกินลมน้อยกว่า ตัวอย่างรุ่นแนะนำ: บล็อกลม RM-600H (ฺBrand: KUKEN) ระบบค้อนคู่ (Twin Hammer Mechanism)พบได้บ่อยในบล็อกลม 4 หุน ระบบการทำงานใช้ลูกตี 2 ลูกหมุนพร้อมกันภายในเสื้อลูกตี จุดเด่น: แรงบิดสูง กินลมน้อย แรงสะบัดน้อย ทนทาน ข้อควรระวัง: ต้องประกอบลูกตีให้ถูกด้าน หากประกอบผิดด้านบล็อกลมจะยิงไม่ออก ลูกตี แกน และเสื้อในจะเสียหายทันที ตัวอย่างรุ่นแนะนำ: บล็อกลม 4 หุน KP-858, KP-1498 (คอสั้น)
ระบบค้อนคู่แบบใหม่ (New Twin Hammer Mechanism)ลิขสิทธิ์เฉพาะที่คิดค้นโดยโรงงาน KUANI ประเทศไต้หวัน เสื้อลูกตีมีการเสริมโครงสร้างให้แข็งแรงกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มขอบกั้นตรงกลาง เพื่อรองรับแรงกระแทกระหว่างลูกตีกับเสื้อลูกตี และแกนที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่รับแรงกระแทกกว้างกว่าเดิม ทำให้แกนทนทานยิ่งขึ้น จุดเด่น: ทนแรงกระแทกได้มากขึ้น เสื้อลูกตี ลูกตี แกน สึกช้ากว่าเดิม ข้อควรระวัง: ต้องประกอบลูกตีให้ถูกด้าน หากประกอบผิดด้านบล็อกลมจะยิงไม่ออก ลูกตี แกน และเสื้อในจะเสียหายทันที ตัวอย่างรุ่นแนะนำ: KP-1023 (บล็อกลม 6 หุน)
ระบบค้อนคู่ใหญ่ (Jumbo Hammer Mechanism)กลไกนี้จะใช้ลูกตีขนาดใหญ่เพียง 1 ตัวทำหน้าที่ช่วยส่งแรงกระแทก มีอะไหล่น้อยกว่ากลไกอื่น ส่วนใหญ่พบในบล็อกลมขนาดเล็กและไขควงลม ข้อสังเกต: มีแรงสะบัดสูงและสั่นมากกว่าระบบอื่น บล็อกลม 1 นิ้วที่ใช้งานด้วยระบบนี้ บล็อกจะมีน้ำหนักค่อนข้างมากและน้ำหนักไม่สมดุล (บล็อกหัวทิ่มไปด้านหน้า) จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในท้องตลาด ตัวอย่างรุ่นแนะนำ: KP-3111-JSH (บล็อกลม 4 หุน & ไขควงลม)
ระบบค้อนใหญ่คู่ (Twin Dog Hammer Mechanism)กลไกที่พัฒนามากจากระบบ Rocking dog การทำงานด้วยลูกตี 2 ตัว ทำให้แรงบิดเพิ่มขึ้น แรงสะบัดลดลง หากบล็อกลม 1 นิ้วใช้งานด้วยกลไกนี้บล็อกจะมีน้ำหนักมาก เพราะมีลูกตีถึง 2 ตัว
ระบบพินคลัทช์ (Pin Clutch Mechanism)บล็อกลมที่ทำงานด้วยกลไกนี้จะมีแรงสะบัดน้อยกว่ากลไกอื่นๆ เพราะมีสปริงช่วยรับแรงกระแทก ข้อสังเกต: อะไหล่ภายในอายุค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับกลไกการทำงานแบบอื่นโดยเฉพาะแกนกับสลักเนื่องจากรับแรงกระแทกตลอดเวลา (แกนสึก สลักหัก) จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในท้องตลาด
การเลือกบล็อกลมไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ขนาดหรือความแรงเท่านั้น แต่ กลไกการทำงานภายในคือหัวใจหลัก ที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน และความเหมาะสมกับลักษณะงาน ที่เรมี่เราคัดสรรเฉพาะบล็อกลมคุณภาพสูงจากโรงงานมาตรฐานสากล เช่น KUKEN (ญี่ปุ่น) และ KP (ไต้หวัน) เพื่อให้ช่างมืออาชีพมั่นใจได้ว่าเลือกใช้เครื่องมือที่ “แรงจริง ทนจริง คุ้มค่า”
|